วันจันทร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ประชาสัมพันธ์ค่าย "ห้องสมุดที่ปลายฝัน จุดประกายทางปัญญา สู่สันติภาพที่ยั่งยืน"


ชื่อโครงการ                            ห้องสมุดที่ปลายฝัน จุดประกายทางปัญญา สู่สันติภาพที่ยั่งยืน

หน่วยงานที่รับผิดชอบ          สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (MUSTFETH)
หลักการและเหตุผล
            ความพยายามในการเสนอแนวทางนำพาสันติสุขกลับมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ได้มีดำเนินการมาหลายวิธีการแล้วด้วยกัน โดยที่แต่ละวิธีการนั้นก็มุ่งไปที่การสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน อย่างไรก็ตามในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายความพยายามที่เมื่อดำเนินการไปแล้วกลับเป็นแค่การลงทุนในระยะสั้น และไม่สามารถเข้าไปถึงกลุ่มชาวบ้านในระดับรากหญ้าได้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากความพยายามของผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงประชาชนจริงๆได้ หรืออาจไม่ได้คิดถึงงานนั้นในฐานะที่ตนเองเป็นส่วนหนึ่ง และจะเป็นผู้ที่ได้รับผลจากการกระทำนั้นในระยะยาวด้วย
                จากสภาพการณ์ดังกล่าวบวกกับในความเป็นจริงแล้วสภาพและผลของความศูนย์เสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ฯ ยังคงระอุอยู่ เนื่องจากไม่มีการแก้ไข และเยียวยาที่ดี เพราะไม่มีผู้ใดที่จะสามารถสะท้อนปัญหาที่แท้จริงได้ เนื่องจากในปัจจุบันกลุ่มที่สามารถเข้าหาประชาชนได้ดี และใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ฯที่สุดก็มีแค่นักศึกษา ที่ยังคงได้รับความเชื่อมั่นในความจริงใจจากชาวบ้านในพื้นที่เอง ดังนั้นกลุ่มนักศึกษานำโดยสมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท, MUSTFETH) จึงจัด โครงการห้องสมุดที่ปลายฝัน จุดประกายทางปัญญา สู่สันติภาพที่ยั่งยืน” โดยการนำนักศึกษาผู้ที่สนใจการทำงานรับใช้ประชาชนมาเรียนรู้สภาพความเป็นจริงของปัญหา และผลกระทบที่มีต่อประชาชนโดยการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตของประชาชนในพื้นที่ฯ เพื่อนักศึกษาจะได้รับรู้และเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ตลอดจนสามารถทำหน้าที่ในการทำกิจกรรม และยืน/เดินเคียงข้างประชาชนต่อไป
                นอกจากนี้นักศึกษาเองก็ตระหนักถึงความสำคัญของการลงทุน เพื่อการนำพาสันติสุขกลับมาในพื้นที่ด้วยวิธีที่ยั่งยืน และสามารถส่งผลในระยะยาวได้ ในโครงการนี้จึงมีการจัดกิจกรรมอบรมคุณธรรม จริยธรรมแก่ยุวชนในพื้นที่  โดยการจัดกิจกรรมส่งเสริมองค์ความรู้ การคิดสร้างสรรค์ ความรับผิดชอบต่อชุมชนบ้านเกิด และแนวคิดการใช้ศาสนาในการดำเนินชีวิตของยุวชนผ่านกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ความรู้จากภูมิปัญญาท้องถิ่น และปราชญ์ชาวบ้าน เพื่อเสริมสร้างแนวคิดเป็นการจุดประกายความสำคัญของปัจจัยทางปัญญาในการเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งและสันติสุขให้กับยุวชน
                รวมถึงในโครงการนี้ยังมีการจัดสร้างห้องสมุดชุมชน สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ระยะยาวทางวิชาการจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนเอง เพื่อให้ชุมชนมีแนวคิดในการพึ่งพาตนเองได้ ตลอดจนเป็นการสร้างเครื่องหมายด้วยสถานที่ที่จะส่งเสริมให้ทุกคนหันมาตระหนักถึงความสำคัญของการนำพาสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ โดยการส่งเสริมการมีองค์ความรู้ขึ้นมาในชุมชน

วันพุธที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2553

"กุหลาบไม่ไร้หนาม" "สุญญาตา" โฆษกสนนท.

       
              ออกมาประกาศ "จุดยืน" ว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน และไม่เอา พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้อย่างฉะฉาน ในเวทีนายกฯพบนักศึกษา หัวข้อ เปิดทางให้นักศึกษาและนิสิต เปิดความคิดเพื่อการปฏิรูป ที่ทำเนียบรัฐบาล ของสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)
โดยเฉพาะ น.ส.สุญญาตา เมี้ยนละม้าย หรือจู๋จี๋ อายุ 22 ปี นิสิตชั้นปี 4 คณะนิเทศศาสตร์ สาขาวารสารสนเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะโฆษก สนนท. หนึ่งในแกนนำที่ออกมาแสดงจุดยืนครั้งนี้ แม้ตัวจะเล็ก แต่ก็เป็นเล็กพริกขี้หนู เพราะ "กล้า" ออกมาคัดค้านนายกฯ ที่เปลี่ยนสถานที่การพบปะกับนักศึกษา จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
"กิจกรรมการพบนักศึกษาครั้งนี้เป็นเพียงละครปาหี่ตบตาประชาชน ใช้นักศึกษาเป็นเครื่องมือในการหาคะแนนนิยมและสร้างภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีมือเปื้อนเลือด" ใจความตอนหนึ่งที่สุญญาตากล่าวในวันพบนายกฯ